TEST RIDER/WRITER: JEDD SRESHTHAPUTRA
TRIUMPH TIGER 800 XCA
TRIUMPH TIGER 800 XRT
บุกถ้ำเสือ
Rubbers Magazine / TheBold.One ออนไลน์ พาร์ทเนอร์ของเรา บินตรงสู่ประเทศโมร๊อคโคเพื่อร่วมทดสอบ Triumph Tiger 800 ใหม่เอี่ยมสองโมเดลด้วยกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถือได้ว่า Triumph Motorcycles จัดเต็มให้กับการเทสรถในครั้งนี้อย่างสมศักดิ์ศรี
สิ่งที่สำคัญที่สุดเวลาไปทดสอบรถที่ต่างประเทศซึ่งเป็นการทดสอบร่วมกับสื่อชั้นนำทั่วโลกก็คือ “ข้อมูล” ซึ่งเราได้จากการรับบรีฟ “ตรง” จากทีมงานบริษัทแม่โรงงาน ฮิงค์ลีย์ประเทศอังกฤษ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านของเราจริงๆ
และครั้งนี้ข้อมูลที่ได้มาก็ทำให้เราไม่ผิดหวังเลย!
เราแวะที่กรุงปารีสก่อนคืนแรกของการเดินทาง หิมาตกหนัก
80 ปีที่แล้ว ในปี ค.ศ. 1936 Triumph Tiger ได้ฤกษ์เปิดตัวเป็นครั้งแรก ด้วยโมเดลแรก จวบจนปัจจุบัน Triumph Tiger ผลิตออกสู่ตลาดโลกรวมทั้งสิ้นประมาณ 68,000 คันแล้ว โดยมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นก็คือ เครื่องยนต์ และ การควบคุมที่เป็นมิตร แต่โมเดล 2018 ที่เปิดตัวในบ้านเราที่งาน มอเตอร์โชว์ปี 2018 นี้ Triumph นำมาแค่สองโมเดลที่เป็นตัวท๊อปเท่านั้น ได้แก่ Triumph Tiger 800 XCA ที่เน้นๆ ไปทางออฟโร๊ด และ XRT ที่เป็นรถที่ใช้งานได้ทุกวันเน้นไปในทางเรียบเป็นหลัก
มาดูความใหม่สดของทั้งสองโมเดลกัน
TRIUMPH TIGER 800 XRT ล้อแม๊ก 19″
TRIUMPH TIGER 800 XCA ล้อซี่ลวด 21″
ทีมงานบอกเราว่ามีการอัพเกรดทั้งหมดกว่า 200 รายการ ในตัว Tiger ใหม่นี้ อย่างแรกก็คือเครื่องยนต์สามสูบเรียงที่เป็น Signature ของ Triumph ที่ใหม่หมดทั้งบล๊อก มีพละกำลังมหาศาลด้วย Torch ที่หนักหน่วง พร้อมเสียงคำรามที่หวานจับใจเป็นเอกลักษณ์ของ Tiger เกียร์ หนึ่ง มีเรโชที่สั้นลงเพื่อเพิ่มความเกรียนในการออกตัวมากขึ้น ต่อด้วยการออกแบบใหม่เน้นให้การควบคุมนั้นง่ายและสบายกว่าเดิม อัพเกรดเรื่องระบบ electronics เพิ่มความสะดวกสะบายมากขึ้นและให้ความแน่นอนในเรื่องการใช้งาน ที่เหลือคือเส้น สาย ลวดลายของรถที่ยังคงความเป็น Tiger แต่เพิ่มขึ้นมาคือแฟริ่งที่ออกแบบให้ช่วยในเรื่องของแอโร่วไดแนมิคส์ที่ดีกว่าเดิม จบลงด้วยการใช้วัสดุเกรดดี “พรีเมี่ยม” แบบสุด
TRIUMPH TIGER 800 XCA (Off Road)
ออกแบบใหม่หมดจรด เครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 800CC แถวเรียงแบบ DOHC 12 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยของเหลว 95 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที 79 นิวตันเมตร ที่ 8,050 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ 6 สปีด เฟรมเป็นแบบ Tubular steel trellis โช๊คหน้าและหลังเป็น WP จานเบรกหน้าคู่ขนาด 305 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์สูบคู่จาก Brembo และระบบ ABS แบบเปิด-ปิดได้ จานเบรกหลังเดี่ยวขนาด 255 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยวจาก Nissin และระบบ ABS แบบเปิด-ปิดได้ ถังน้ำมันจุ 19 ลิตร น้ำหนัก 208 กิโลกรัม (ไม่มีของเหลว) ความสูงเบาะ 840-860 มม คันเร่งไฟฟ้า Ride –by- Wire ระบบ traction control แบบเปิด-ปิดได้ มีโหมดการขับขี่ 6 โหมด ( Off-road Pro, Road, Rain, Off-road, Sport and Rider programmable) ท่อถูกออกแบบมาให้น้ำหนักเบาลงและมีเสียงที่เพราะกว่าเดิม
มีระบบคลัตช์ช่วยผ่อนแรง ระบบเกียร์ออกแบบใหม่ ทำให้เข้าเกียร์ได้แม่นยำขึ้น แฮนด์บาร์ปรับองศาเข้าหาตัวผู้ขับขี่ 10 มิลิเมตร ทำให้ควบคุมง่ายขึ้น ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว มี Cruise control มาให้ พร้อม ปลอกมือจับปรับอุณหภูมิไฟฟ้า และ เบาะที่นั่งอุ่นไฟฟ้า สำหรับคนขี่และคนซ้อน ระบบไฟ LED ครบชุด ช่องชาร์จไฟ USB ทริปคอมพิวเตอร์ ชุดแผงหน้าปัด TFT แบบ Full Colour ขนาด 5 นิ้ว เบาะที่นั่งอุ่นไฟฟ้า กระจกกันลมหน้ารถแบบปรับได้ 5 ตำแหน่ง ด้วยมือเพียงข้างเดียวขณะขับขี่ สวิตช์แฮนด์เรืองแสงและจอยสติ๊กควบคุม 5 ทิศทาง ยาง Pirelli Scorpian Trail 2 มีสีให้เลือก 3 โทนสี Crystal White Korosi Red และ Marine
TIGER 800 XRT (On Road)
เรียกได้ว่ามีหลายอย่างที่เหมือนกับ XCA ที่ต่างกันหลักๆ ก็คือ ล้อหน้าเป็นล้อแม๊กขนาด 19 นิ้ว และยางที่ต่างกันโดยเป็นแบบใช้บนทางดำ โช๊คหน้าและหลัง เป็น Showa มีระยะยุบตัวน้อยกว่า WP ของรุ่น XCA มีน้ำหนักน้อยกว่า XCA 6 กิโลกรัม (202 กิโลกรัม) ไม่มีโหมด Off-road pro ทำให้เหลือโหมดการขับขี่เพียง 5 โหมด ความสูงของเบาะเพียง 810 – 830 มิลลิเมตร คนตัวไม่สูงสามารถขี่ได้สบายๆ (ผู้เขียนสูง 160 เซ็นติเมตร) ยางติดรถ เป็น Metzeler มีสีให้เลือก 3 โทนสี Crystal White Matt Cobalt Blue และ Silver Ice
RIDING TIGERS
บทสรุป ฟีลลิ่งการขับขี่
SPECIAL THANKS
TRIUMPH MOTORCYCLES THAILAND
TOURATECH THAILAND
RUBBERS MAGAZINE
KRATOS CHANNEL
EDITORIDE
NUKE VISOR CLEANER
BEHIND THE SCENE